
หากไม่อยากป่วยด้วยโรคทางสมอง ลองปฏิบัติตามเคล็ดลับเติมพลังสมองด้วยวิธีง่าย ๆ แค่อย่าละเลยการรับประทานอาหารมื้อเช้า เพราะมีผลต่อความจำที่ดี ทั้งยังป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
สำหรับอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสมองด้านความจำคืออาหารที่มีโอเมก้า 3 วิตามินบี1 บี6 และบี12 รวมทั้งวิตามินซีเพื่อความกระปรี้กระเปร่า น้ำมันพริมโรสเติมความชุ่มชื่นให้เซลล์ และดื่มน้ำมาก ๆ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด
อีกทั้งขณะหลับร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสมอง ดังนั้นในแต่ละวันควรหลับพักผ่อนไม่ต่ำกว่า 6-7 ชั่วโมง ที่สำคัญต้องไม่นอนดึก
ในเรื่องความคิดควรคิดในเชิงบวก นับตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า หากมีจิตใจที่แจ่มใส ตลอดทั้งวันอารมณ์ความรู้สึกก็จะเบิกบาน ทั้งยังต้องหมั่นหัวเราะเพื่อผ่อนคลายกังวล
ถึงแม้จะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับบางคน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การนั่งสมาธิเพียงวันละ 10 นาที ให้สมองเข้าสมาธิแบบลึก จัดเป็นการผ่อนคลายสมองที่ดี เสริมสร้างจินตนาการ ไม่ทำให้หลงลืมอะไรง่าย ๆ
ส่วนเรื่องใกล้ตัวอยู่แค่ปลายจมูก อย่าง การหายใจก็ช่วยเพิ่มพลังให้สมองได้ แค่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนออกช้า ๆ เพียง 15 นาทีต่อวัน จะทำให้สมองได้ถ่ายเทออกซิเจนได้เต็มที่สมองต้องการ 20-25%
สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น ฝึกเขียนหนังสือด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด เพื่อการบริหารสมองทั้งซีกซ้ายและขวา หรือฝึกคิดคำนวณ แก่ปริศนาบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังต้องออกกำลังกายเป็นประจำ และควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วย.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แอ๊ปเปิ้ลแดง เป็นที่คุ้นตากันที่สุด โดยเฉพาะพันธุ์ “Red delicious” ที่มีจุดเด่นในเรื่องสุขภาพคือมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วยค่ะ
แอ๊ปเปิ้ลสีเขียว รสเปรี้ยวอมหวาน เป็นขวัญใจคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักก็มีดี ไม่แพ้ใคร เพราะการกินแอ๊ปเปิ้ลสีเขียว อย่างพันธุ์ “Granny Smith” นอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างอิลาสตินและคอลลาเจน ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงยืดหยุ่นได้ดี 












.jpg)

